วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2559

ฝิ่น

ฝิ่น



ชื่อทั่วไป


ฝิ่น (Opium)

ชื่ออื่น ๆ

PAPAVER SOMNIFERUM และ PAPAVER BRACTEATUM (ชื่อทางพฤกษศาสตร์)
หมู (ฝิ่นที่คลุกยาฉุน ยาเส้น ใบพลู ใบจาก หรือกัญชาใช้ม้วนสูบด้วยกล้อง)

ชื่อทางวิทยาศาสตร์

-

สารเคมีที่ออกฤทธิ์

Morphine และ อัลคาลอยด์ของฝิ่น

ลักษณะทางกายภาพ

เนื้อฝิ่นได้มาจากยางของผลฝิ่นที่ถูกกรีดจะมีสีขาว เมื่อถูกอากาศจะมีสีคล้ำลง กลายเป็นยาง
เหนียวสีน้ำตาลไหม้ หรือดำ มีกลิ่นเหม็นเขียวและรสขม เรียนว่า “ฝิ่นดิบ” ส่วนฝิ่นที่มีการนำมาใช้เสพ
เรียกว่า “ฝิ่นสุก” ได้มาจากนำฝิ่นดิบไปต้มหรือเคี่ยวจนสุก

ประวัติความเป็นมา

ฝิ่น เป็นยาเสพติดให้โทษที่สำคัญชนิดแรกที่แพร่เข้ามาสู่ประเทศไทย แต่จะเข้ามาตั้งแต่เมื่อใดไม่
ปรากฏหลักฐานยืนยันจากการสันนิษฐานทางประวัติศาสตร์ น่าเชื่อว่าคนไทยได้รับอิทธิพลถ่ายทอด
เกี่ยวกับเรื่องฝิ่นมาจากชาวจีนในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น เนื่องจากมีสำเภาจีนเดินทางบรรทุกสินค้า
เข้ามาค้าขายกับคนไทยจนเป็นที่นิยมในกรุงศรีอยุธยา จนสืบเนื่องมาถึงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นก็ยังคง
มีการจำหน่ายและเสพฝิ่นกันอยู่อย่างแพร่หลายโดยรัฐบาลเพียงแต่เข้มงวด
ในเรื่องการควบคุมภาษีฝิ่นเท่านั้น แต่ยังมีคนไทยลักลอบซื้อขาย และสูบฝิ่นกันอยู่จำนวนมาก

ฝิ่น
ต่อมาในปี พ.ศ.2501 คณะปฏิวัติภายใต้การนำของ ฯพณฯจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เห็นสมควรให้การเสพ
และจำหน่ายฝิ่นในประเทศไทยเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และได้มีประกาศของคณะปฏิวัติให้เลิกการเสพและ
จำหน่ายฝิ่นโดยเด็ดขาดทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2502 เป็นต้นไป

ประเภทของยา

ฝิ่น (ฝิ่นดิบ ฝิ่นสุก มูลฝิ่น) จัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522

แหล่งผลิต

ฝิ่นเป็นพืชล้มลุกขึ้นในที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 3,000 ฟุตขึ้นไป เป็นยาเสพติดที่เป็นต้นตอของ
ยาเสพติดร้ายแรง
เช่น มอร์ฟีน เฮโรอีน และโคเดอีน นอกจากประเทศไทยจะประสบปัญหาการลักลอบค้าและการลำเลียง
ฝิ่นตามแนวชายแดนจากประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ยังมีการลักลอบปลูกฝิ่นในประเทศไทย โดยใน ปี 2541/2542 มีพื้น
ที่ปลูกฝิ่นประมาณ9,007 ไร่ ลดลงจากปี 2540/2541 ประมาณ 279 ไร่ กองทัพบกและตำรวจภูธรได้
เข้าปฏิบัติการตัดฟันทำลาย
ไร่ฝิ่น 5,051 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 56.08 ของพื้นที่ปลูกฝิ่นทั้งหมดในประเทศ
พื้นที่ที่มีการลักลอบปลูกฝิ่นมาก ได้แก่ พื้นที่ อ.อมก๋อย อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ อ.ปาย อ.ปางมะผ้า
จ.แม่ฮ่องสอน อ.เวียงป่าเป้าจ.เชียงราย และ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก โดยมีการลักลอบปลูกหลายครั้งใน
พื้นที่เดียวกัน และมีแนวโน้มที่จะปลูกเพื่อการค้ามากขึ้น

การแพร่ระบาด

จากสถิติผู้เข้ารับการบำบัดรักษา พบว่า ผู้เสพส่วนใหญ่ยังคงเป็นผู้เสพเดิมและมักจะเสพกันในกลุ่ม
ผู้ที่มีอายุมากคือ ตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ไม่ได้รับการศึกษาเลย หรือได้รับการศึกษา
น้อยเพียงระดับประถมศึกษา
กลุ่มผู้เสพประกอบอาชีพเกษตรกรหรือรับจ้าง เมื่อพิจารณาจากสถิติผู้เข้ารับการบำบัดรักษา พบว่า
ภาคเหนือเป็นพื้น
ที่ที่มีปัญหาการแพร่ระบาดฝิ่นมาก โดยเฉพาะใน จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย จ.แม่ฮ่องสอนและ จ.ตาก

การออกฤทธิ์

ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลางมีผลกดประสาท โดยกดการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง
สารเคมีที่มีผสมอยู่มากมายในเนื้อฝิ่น ซึ่งประกอบด้วย โปรตีน เกลือแร่ ยาง และกรดอินทรีย์ เป็น Alkaloid ซึ่งเป็นสารผสมอยู่ในเนื้อฝิ่นอันเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ฝิ่นกลายเป็นยาเสพ ติดให้โทษที่ร้ายแรง Alkaloid
ในฝิ่นมีประมาณ25 ชนิด แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
ประเภทที่ 1 ออกฤทธิ์ทำให้เกิดอาการมึนเมา และเป็นยาเสพติดให้โทษโดยตรง Alkaloid ประเภทน
ี้ ทางเภสัชวิทยาถือ
ว่าเป็นยาทำให้นอนหลับ (Hypnotic)
ประเภทที่ 2 ออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อหย่อนคลายตัว
ซึ่งในทางเภสัชวิทยาถือว่า Alkaloid ในฝิ่นประเภทนี้ไม่เป็นสารเสพติด แต่มีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อของ
ร่างกายหย่อนคลายตัว

ผลต่อร่างกาย

ในขณะที่ผู้เสพตกอยู่ใต้อิทธิพลของยาเสพติดจะมีอาการง่วงนอน เซื่องซึม ชีพจรเต้นช้า ไม่รู้สึกหิว ไม่พูดมาก และ
ไม่สนใจกับสิ่งต่างๆรอบตัว อาจจะนั่งเหม่อมองออกไปโดยไม่มีจุดหมาย นัยน์ตาอาจเปลี่ยนสีและขนาดของม่านตาอาจจะ
เล็กลงเท่าขนาดรูเข็ม เมื่อเริ่มมีความต้องการยาครั้งต่อไปและมีอาการของการขาดยาเสพติดจะมีลักษณะ อาการเริ่มต้น คือ
น้ำตา น้ำมูกไหล ปวดหัว เกิดอาการคัน หาวนอน ขนลุก สะบัดร้อนสะบัดหนาว ม่านตาขยาย ผู้ติดยาเสพติดจะหงุดหงิด
กระวนกระวาย ตื่นตกใจ อาการขั้นรุนแรงขึ้น คือ นอนไม่หลับ เหงื่อออก ปวดเมื่อยตามแขนขา คลื่นเหียนอาเจียน
มีอาการท้องร่วง

การบำบัด
ขั้นตอนการบำบัดรักษาฝิ่นมี 4 ขั้นตอนดังนี้ 1. ขั้นเตรียมการ เป็นการเตรียมตัวผู้ติดยาเสพติดให้พร้อมที่
จะเข้ารับการบำบัดรักษาให้เกิดความเชื่อมั่นและมีความตั้งใจ
จริงที่จะเลิกยาเสพติด นอกจากนี้ยังต้องเตรียมความพร้อมญาติพี่น้องและครอบครัว หรือผู้ใกล้ชิดให้เข้า
มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาต่างๆ 2. ขั้นถอนพิษยา ในขั้นตอนนี้ผู้ติดฝิ่นที่มีความตั้งใจที่จะเลิก โดยการหยุดเสพแล้วจะมีความอยากและความต้องการยาเสพติดอยู่เหมือนเช่นเคย ดังนั้น การบำบัดรักษา
จะเลือกใช้วิธีการใดขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ใช้ ปริมาณการใช้และความตั้งใจของผู้เสพ หากเสพในปริมาณมากและเป็น
เวลานานหลายปี จะมีอาการถอนพิษยา (Withdrawal Symptoms) เช่น หาวนอน น้ำมูก น้ำตาไหล เหงื่อออกมาก
มีอาการทุรนทุราย หงุดหงิด
ปวดกล้ามเนื้อ ปวดท้อง ท้องเดิน อาเจียน รายที่รุนแรงอาจถ่ายเป็นเลือดที่ชาวบ้าน เรียกว่า “ลงแดง”
หรือมีอาการชักเกิดขึ้น
เพราะอาการต่างๆ อาจรุนแรง ถึงชีวิตได้ แต่หากเริ่มเสพมาไม่นานนักและมีความตั้งใจที่จะเลิกจริงๆ
วิธีที่ดีที่สุด คือการหยุดใช้ยาเองหรือที่เรียกว่า
“หักดิบ” พักผ่อนให้เต็มที่ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงก็จะสามารถถอน
พิษยาออกจากร่างกายได้ในที่สุด
โดยจะใช้เวลาไม่นานกว่า 15 วัน 3. ขั้นฟื้นฟูสมรรถภาพ เป็นการปรับสภาพร่างกายและจิตใจของผู้เลิกยาเสพติด
ให้มีความเข้มแข็งปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพ ความคิด ความรู้สึกและพฤติกรรมให้สามารถกลับสู่สังคมได้อย่างปกติ โดยการให้คำปรึกษาการฟื้นฟูสมรรถภาพแบบชุมชนบำบัด เป็นต้น ซึ่งผู้ติดยาเสพติดสามารถเข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพได้ที่ศูนย์ฟื้น
ฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดที่มีอยู่ทั่วประเทศ 4. ขั้นติดตามดูแลหลังรักษา เป็นการติดตามดูแลผู้เลิกยาเสพติด
ที่ผ่านการบำบัดรักษา ทั้ง 3 ขั้นตอน เพื่อให้คำแนะนำปรึกษา ให้กำลังใจ ทั้งนี้เพื่อมิให้หวนกลับไปเสพยาเสพติดซ้ำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น